รัสเซียนับเป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านการลงทุนเพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่

ประเทศที่มีอาณาบริเวณตั้งแต่ทางตะวันออกของทวีปยุโรป และทางเหนือของทวีปเอเชีย พื้นที่ 2 ใน 3 ของรัสเซียอยู่ในทวีปเอเชีย มีเทือกเขาอูราลเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างทั้งสองทวีป ประเทศรัสเซียมีพรมแดนติดกับ 14 ประเทศ คือ อาเซอร์ไบจาน เบลารุส จีน เอสโตเนีย ฟินแลนด์ คาซัคสถาน เกาหลีเหนือ ลัตเวีย ลิทัวเนีย มองโกเลีย นอร์เวย์ โปแลนด์ ยูเครน จอร์เจีย และยังมีพื้นที่ติดกับมหาสมุทรอาร์กติกและมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ ประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของประเทศแคนาดาซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และใหญ่กว่าประเทศไทย ราว 33 เท่า แต่เดิมประเทศรัสเซียเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุด และมีอิทธิพลที่สุดของโซเวียต ปัจจุบันมีเมืองหลวง คือ กรุงมอสโคว

เศรษฐกิจรัสเซียมีอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ร้อยละ 4.1 ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ดี และเป็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจรัสเซียได้ฟื้นฟูจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2551 ดัชนีทางเศรษฐกิจระดับมหภาคส่วนใหญ่เป็นไปในทางบวก ในด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรม รัสเซียสามารถเพิ่มผลผลิตได้ร้อยละ 4.7 เป็นลำดับที่สี่รองจากประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ คือ จีน อินเดีย และเยอรมัน ตามลำดับ ภาคการเกษตร และภาคการก่อสร้างต่างมีอัตราการขยายตัวที่สูงขึ้นในระดับร้อยละ 16.1 และ 4.8 ตามลำดับ เศรษฐกิจของรัสเซียโดยรวมมีความแข็งแกร่งกว่าประเทศที่สำคัญหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศในเขตยูโรโซนในช่วงปีที่ผ่านมา

ที่ผ่านมารัสเซียสามารถผลิตและส่งออกน้ำมันมากที่สุดในโลก

และด้วยสถานการณ์ด้านน้ำมันของตลาดโลกที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบสูงโดยเฉลี่ย 113 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้รัสเซียสามารถนำเข้าเงินตราจากการส่งออกน้ำมันได้มากถึง 1.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อรวมถึงการส่งออกก๊าซธรรมชาติ ซึ่งรัสเซียก็เป็นผู้ผลิตและส่งออกสูงสุดของโลก ทำให้การค้าระหว่างประเทศมีภาวะเกินดุล และรายได้จำนวนมากจากการส่งออกพลังงานดังกล่าวส่วนหนึ่งถูกนำไปสะสมในเงินสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีมากถึง 500,000 ล้านบาท เป็นอันดับที่สามของโลกรองจากจีนและญี่ปุ่น

รัสเซียมีการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ กฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ

เพื่อการเข้าเป็นสมาชิก WTO ซึ่งจะส่งผลให้การค้าของรัสเซียเปิดเสรี โปร่งใส และคาดการณ์ได้มากขึ้น ทั้งนี้สินค้าที่เข้าเขตแดนรัสเซียจะต้องผ่านศุลกากรและโดยปกติบริษัทรัสเซียที่เป็นคู่ค้าบริษัทต่างชาติจะต้องรับผิดชอบกระบวนการทางศุลกากร ซึ่งพิธีการทางศุลกากรมีลำดับขั้นตอนหลักๆ ได้แก่ สินค้าเข้าที่ด่านศุลกากร ขนถ่ายสินค้า ยื่นเอกสารศุลกากร ยื่นเอกสารอื่นๆ จ่ายภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ จากนั้นสำนักงานศุลกากรอาจจะเรียกตรวจเอกสารจากผู้นำเข้าและส่งออกเพื่อยืนยันสถานะทางกฎหมาย