การเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการทำธุรกิจโรงกลึง

ความรู้ความเชี่ยวชาญ ผู้ประกอบการเองหรือลูกจ้างควรจะต้องมีทักษะความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือ ที่ใช้ในการผลิตและตัวสินค้าที่ทำ การผลิตพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับด้านการกลึง ความรู้ด้านโลหะ การลับมีด การเลือกมีด และวิธีการทำ โปรแกรมเครื่อง CNC หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นต้น โดยผู้ประกอบการ ควรต้องรู้ทันทีว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการนั้นคืออะไร หรือใช้วัสดุใดทดแทนได้บ้าง และสามารถให้คำ แนะนำ ในการผลิต ตลอดจนการออกแบบชิ้นงานต่างๆ ที่เที่ยงตรง หรือแม้แต่ความรู้ด้านแหล่งซื้อวัตถุดิบ/เครื่องจักร (ส่วนใหญ่จะนำ เข้าจากไต้หวัน ญี่ปุ่น) และความรู้ด้านการตีราคาประเมินราคา เป็นต้น สำหรับแหล่งความรู้ก็ อาจจะต้องอาศัยประสบการณ์ของผู้ประกอบการเอง หรือจากการพูดคุยกับลูกค้า หรือหาความรู้เพิ่มเติมจากทาง อินเทอร์เน็ต กล่าวคือ เจ้าของและช่างของโรงกลึงควรมีประสบการณ์ด้านการกลึง มีฝีมือดี มีความรับผิดชอบ และตรงต่อเวลา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ ในสภาวะที่แรงงานมีฝีมืออาจจะหายากขึ้นหรือ ไม่สามารถหามาทดแทนได้ในเวลาอันรวดเร็ว การรักษาแรงงานที่มีทักษะและเชี่ยวชาญให้อยู่กับกิจการได้นานๆ ก็เป็นหัวใจสำคัญต่อความยั่งยืนของกิจการเช่นกัน

ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลที่ดีทั้งกับลูกค้าเองหรือแหล่งจำหน่ายวัตถุดิบ นับเป็นสิ่งสำคัญในวงการนี้ เพราะจะเป็นปัจจัยที่มีส่วนในการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ขยายวงกว้างได้มากหรือน้อยได้

 ผู้ประกอบการ โรงกลึงควรตระหนักถึงความสำคัญของงานบริการ

งานบริการจะช่วยให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุดด้วย แม้ว่ากิจการจะ เป็นผู้ผลิตสินค้าก็ตาม คุณภาพและมาตรฐานของสินค้า ซึ่งนอกจากจะทำ ให้ลูกค้าได้รับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพตรง ตามความต้องการแล้ว ยังทำ ให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในตัวบริษัทด้วย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการอาจจะต้องมองว่าคู่แข่ง ของบริษัทก็คือลูกค้าด้วย เพื่อกระตุ้นตนเองให้ต้องผลิตให้ดีกว่า ถูกกว่า และเร็วกว่า และยิ่งถ้าผู้ประกอบการ สามารถดำ เนินการได้อย่างครบวงจรทั้งในส่วนของการผลิตและการบริการลูกค้าที่จะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระ ด้านการจัดซื้อให้กับลูกค้าได้ ก็คาดว่าจะส่งผลให้บริษัทมีการเจริญเติบโตควบคู่ไปกับลูกค้าได้อย่างดี มีความยืดหยุ่นในกระบวนการผลิต ที่ควรจะสามารถผลิตสินค้าที่หลากหลายในเวลาอันรวดเร็ว และสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการสินค้าที่อาจมีการปรับเปลี่ยนไปของลูกค้า ได้อย่างทันท่วงที

มีความคิดริเริ่มที่นำ ไปสู่การสร้างนวัตกรรม (Innovation) และต่อยอดธุรกิจ อาทิ อุตสาหกรรม อุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ และธุรกิจผลิตอุปกรณ์ท่อสแตนเลส เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ประกอบการสร้าง จุดเด่นให้แก่ผลิตภัณฑ์และบริการได้ก็จะสามารถครองใจลูกค้าเก่า และหาลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น